มังกรกำมะหยี่

แนะนำพันธุ์ไม้ Alocasia reginula ‘Black Velvet’

แนะนำพันธุ์ไม้ Alocasia reginula ‘Black Velvet’

Alocasia ‘Black Velvet’ มังกรกำมะหยี่ แบล็คเวลเวท

ครั้งนี้ “สวนเกษตร 32” จะมาแนะนำไม้ใบฟอกอากาศที่มีความสวยงามโดดเด่น เป็นที่นิยม และครองใจคนรักต้นไม้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังถูกจัดให้เป็นอีกหนึ่งอัญมณีในกลุ่มอโลคาเซียด้วยค่ะ

Alocasia reginula ‘Black Velvet’ หรือ มังกรกำมะหยี่ เป็นพืชในกลุ่มอโลคาเซียที่มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนในพื้นที่ของเกาะบอร์เนียวเช่นเดียวกับ อโลคาเซีย เกล็ดมังกร (Dragon Scale) ลักษณะลำต้นและใบอวบน้ำ รูปร่างของใบเป็นทรงหัวใจกลมมน ใบหนาสีเขียวเข้มเกือบดำผิวมีหน้าใบนุ่มนวลคล้ายกับผ้ากำมะหยี่ ตัดสีสันด้วยเส้นใบสีเงิน ความสูงเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 25-40 ซ.ม.(ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและวิธีปลูกเลี้ยง)

ด้วยความที่เป็นไม้กระถางที่มีขนาดเล็กกระทัดรัด แต่เรียบหรู และสวยอย่างมีสไตล์ จึงได้รับการขนานนามว่า “ราชินีตัวน้อย” ซึ่งเป็นความหมายของคำว่า Reginula ที่เป็นคำในภาษาละตินนั่นเองค่ะ

ข้อมูลเบื้องต้น การดูแลรักษา

  • แสง: ชอบที่ๆมีแสงสว่างค่อนข้างมากแต่ไม่ควรโดนแดดจัดโดยตรงเนื่องจากจะทำให้ใบไหม้แดดได้ สามารถวางบริเวณระเบียงหรือริมหน้าต่างที่รับแดดอ่อนๆช่วงเช้าได้ค่ะ
  • อุณหภูมิ: 12-30 C. และควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีอุณหภูมิมากกว่า 35 C
  • น้ำ: ชอบความชื้นแต่ไม่ชอบแฉะ รดน้ำเฉลี่ย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ (สามารถปรับเพิ่มและลดการให้นำได้โดยอิงจากสภาพความชื้นและภูมิอากาศ โดยรดน้ำเมื่อผิวหน้าดินด้านบน 1-2 นิ้วเริ่มแห้ง) ควรระวังอย่าปล่อยให้ดินทั้งกระถางแห้งจนเกินไปและหลีกเลี่ยงน้ำขังที่บริเวณจานรองกระถางเพื่อป้องกันรากเน่า
  • ความชื้น:  เติบโตได้ดีที่ความชื้นในอากาศประมาณ 40%-75% สามารถปลูกในห้องครัว ห้องน้ำ หรือในสวนร่วมกับต้นไม้อื่นๆเพื่ออิงความชื้นกันจะทำให้ต้นไม้แข็งแรงสมบูรณ์ และมีใบที่เงางามค่ะ หากเราปลูกในบ้าน อาจช่วยเพิ่มความชื้นรอบต้นได้ด้วยการวางบนจานรองกระถางที่ใส่เม็ดดินเผาและน้ำไว้ หรือวางไว้ใกล้กับเครื่องทำความชื้นค่ะ
  • ปุ๋ย: สามารถให้ปุ๋ยชนิดเม็ดละลายช้าทุก 3 เดือน และให้ปุ๋ยสูตรละลายน้ำสามารถผสมน้ำแบบเจือจางโดยลดปริมาณปุ๋ยจากอัตราส่วนหน้าฉลากลงครึ่งหนึ่ง รดลงที่ดินปลูกทุก 6 สัปดาห์ค่ะ
  • วัสดุปลูก: ควรเลือกใช้วัสดุปลูกที่มีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความโปร่งและเก็บความชื้นได้ดีเพื่อป้องกันรากเน่า ยกตัวอย่างเช่น เปลือกไม้  กาบมะพร้าวสับ เพอไลท์เมล็ดหยาบ หินภูเขาไฟ และพีทมอส

ข้อควรรู้

  1. อโลคาเซียมักมีช่วงพักตัว ในระหว่างนั้นใบจะซีดเหลืองและหลุดร่วงไป(ทิ้งใบ) ซึ่งไม่ต้องตกใจ ในช่วงพักตัวต้นอโลคาเซียจะมีความต้องการน้ำและปุ๋ยที่ลดลง ให้ผู้เลี้ยงลดการให้ปุ๋ย และเปลี่ยนการรดน้ำจากเดิมมาเป็นรดเมื่อพบว่าดินแห้งแทนค่ะ
  2. ควรหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนกระถางบ่อยๆโดยไม่จำเป็นเนื่องจากจะเป็นการไปรบกวนระบบรากและทำให้การเจริญเติบโตหยุดชะงักได้ค่ะ
  3. เนื่องจากเป็นพืชที่ชอบแสงสว่างจึงอาจมีอาการเอนเข้าหาแสงหากปลูกเลี้ยงภายในบ้าน ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการหมั่นหมุนกระถางทุกครั้งที่เรารดน้ำเพื่อให้ด้านอื่นๆได้รับแสงอย่างทั่วถึงค่ะ
  4. พืชชนิดนี้มีดอกขนาดเล็กกลีบดอกสีขาวครีมซึ่งไม่ค่อยดึงดูดสายตานัก หากผู้ปลูกเลี้ยงไม่ต้องการก็สามารถตัดดอกทิ้งไปได้เพื่อสงวนสารอาหารให้กับต้นในการสร้างใบใหม่ต่อไปค่ะ
  5. พืชชนิดนี้สามารถก่ออาการระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตาได้ และเป็นไม้ที่เป็นพิษอ่อนๆหากรับประทานเข้าไป ผู้ปลูกเลี้ยงที่มีเด็กและสัตว์เลี้ยงจึงควรระมัดระวังค่ะ
  6. หากพบว่าอโลคาเซียที่เราปลูกเลี้ยงมีใบเหลืองหรือไหม้ โดยไม่ทราบสาเหตุ ผู้ปลูกเลี้ยงสามารถศึกษาข้อมูลได้จาก https://www.kaset32farm.com/article/plant-care/alocasia-turning-yellow/ เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขค่ะ

แชร์หน้านี้
Posted by Pete Ongsuwan in การดูแลต้นไม้