Dragon Scale

แนะนำพันธุ์ไม้ Alocasia baginda ‘Dragon Scale’

สวยเกินหน้าเกินตาเพื่อน สวยแบบไม่เกรงใจใคร Alocasia 'Dragon Scale'

วันนี้แอดจะพามารู้จักกับไม้ใบที่สวยแบบไม่ธรรมดากับ Alocasia baginda ‘Dragon Scale’ (อโลคาเซีย บากินดา ดรากอน สเคล) หรือ อโลคาเซีย เกล็ดมังกร ไม้ใบที่ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในอัญมณีแห่งอโลคาเซีย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจและเป็นที่ต้องการอย่างมากในกลุ่มผู้ปลูกเลี้ยงอโลคาเซียค่ะ

Alocasia baginda ‘Dragon Scale’ (อโลคาเซีย บากินดา ดรากอน สเคล) มีถิ่นกำเนิดในป่าเขตร้อนของเกาะบอเนียว มีลักษณะโดดเด่น ใบหนา ผิวหน้าใบมีความเงางาม มีเส้นใบและลายใบที่ชัดเจนคล้ายหินแกะสลัก หน้าใบเป็นสีเงินเหลือบเขียวโทนสว่างและไล่สีเขียวเข้มขึ้นไปที่เส้นใบ ด้านหลังใบเป็นสีครีมอ่อนๆ เส้นใบด้านหลังเป็นสีม่วงมารูน(ม่วงอมแดง) ใบอ่อนจะมีสีที่เข้มขึ้นเมื่อโตเต็มที่ ด้วยลวดลายและเส้นใบที่เป็นเอกลักษณ์จึงได้รับสมญานามว่า Dragon Scale หรือเกล็ดมังกรนั่นเอง

ด้วยความสวยงามและมีรูปลักษณ์โดดเด่น แปลกตา จึงสวยสะดุดตาผู้ชมแม้จะจัดวางเดี่ยวๆ หรือหากวางเป็นกลุ่มร่วมกับไม้ชนิดอื่นๆก็สวยเด่นดึงดูดสายตาผู้ชมได้เป็นอย่างดีเช่นกัน อีกทั้งพืชชนิดนี้ยังถูกจัดอยู่ในกลุ่มของอโลคาเซียที่ไม่ต้องการการดูแลมากนัก เหมาะที่จะเลี้ยงในบ้านอีกด้วยค่ะ

ข้อมูลเบื้องต้น การดูแลรักษา

  • แสง ☀️ : ชอบที่ๆมีแสงสว่างค่อนข้างมากแต่ไม่ควรโดนแดดจัดโดยตรงเนื่องจากจะทำให้ใบไหม้แดดได้ สามารถวางบริเวณระเบียงหรือริมหน้าต่างที่รับแดดอ่อนๆช่วงเช้าได้ค่ะ (ควรหลีกเลี่ยงการวางหน้าคอมเพรสเซอร์แอร์ เนื่องจากลมร้อนที่พัดออกมาจะทำให้ต้นไม้เสียหายได้ค่ะ)
  • อุณหภูมิ ☀️: 13-30 C. และควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีอุณหภูมิมากกว่า 35 C
  • น้ำ 💧 : ชอบความชื้นแต่ไม่ชอบแฉะ รดน้ำเฉลี่ย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ (สามารถปรับเพิ่มและลดการให้นำได้โดยอิงจากสภาพความชื้นและภูมิอากาศ โดยรดน้ำเมื่อผิวหน้าดินด้านบน 1-2 นิ้วเริ่มแห้ง) ควรระวังอย่าปล่อยให้ดินทั้งกระถางแห้งจนเกินไปและหลีกเลี่ยงน้ำขังที่บริเวณจานรองกระถางเพื่อป้องกันรากเน่า
  • ความชื้น 💦 : เติบโตได้ดีที่ความชื้นในอากาศประมาณ 60%-80% สามารถปลูกในห้องครัว ห้องน้ำ หรือในสวนร่วมกับต้นไม้อื่นๆเพื่ออิงความชื้นกันจะทำให้ต้นไม้แข็งแรงสมบูรณ์ และมีใบที่เงางามค่ะ หากเราปลูกในบ้าน อาจช่วยเพิ่มความชื้นรอบต้นได้ด้วยการวางบนจานรองกระถางที่ใส่เม็ดดินเผาและน้ำไว้ หรือวางไว้ใกล้กับเครื่องทำความชื้น
  • ปุ๋ย 🌱 : สามารถให้ปุ๋ยชนิดเม็ดละลายช้าทุก 3 เดือน และให้ปุ๋ยสูตรละลายน้ำสามารถผสมน้ำแบบเจือจางโดยลดปริมาณปุ๋ยจากอัตราส่วนหน้าฉลากลงครึ่งหนึ่ง รดลงที่ดินปลูกทุก 6 สัปดาห์ค่ะ
  • วัสดุปลูก 💧 : ควรเลือกใช้วัสดุปลูกที่มีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความโปร่งและเก็บความชื้นได้ดียกตัวอย่างเช่น เปลือกไม้ กาบมะพร้าวสับ เพอไลท์เมล็ดหยาบ และพีทมอส

ข้อควรรู้

  1. อโลคาเซียมักมีช่วงพักตัว ในระหว่างนั้นใบจะซีดเหลืองและหลุดร่วงไป(ทิ้งใบ) ซึ่งไม่ต้องตกใจ ในช่วงพักตัวต้นอโลคาเซียจะมีความต้องการน้ำและปุ๋ยที่ลดลง ให้ผู้เลี้ยงลดการให้ปุ๋ย และเปลี่ยนการรดน้ำจากเดิมมาเป็นรดเมื่อพบว่าดินแห้งแทนค่ะ
  2. ควรหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนกระถางบ่อยๆโดยไม่จำเป็นเนื่องจากจะเป็นการไปรบกวนระบบรากและทำให้การเจริญเติบโตหยุดชะงักได้ค่ะ
  3. เนื่องจากเป็นพืชที่ชอบแสงสว่างจึงอาจมีอาการเอนเข้าหาแสงหากปลูกเลี้ยงภายในบ้าน ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการหมั่นหมุนกระถางทุกครั้งที่เรารดน้ำเพื่อให้ด้านอื่นๆได้รับแสงอย่างทั่วถึงค่ะ
  4. พืชชนิดนี้มีดอกขนาดเล็กกลีบดอกสีม่วงอ่อนๆซึ่งไม่ค่อยสวยงามนัก หากผู้ปลูกเลี้ยงไม่ต้องการก็สามารถตัดดอกทิ้งไปได้เพื่อสงวนสารอาหารให้กับต้นในการสร้างใบใหม่ต่อไปค่ะ
  5. พืชชนิดนี้สามารถก่ออาการระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตาได้ และเป็นไม้ที่เป็นพิษอ่อนๆหากรับประทานเข้าไป ผู้ปลูกเลี้ยงที่มีเด็กและสัตว์เลี้ยงจึงควรระมัดระวังค่ะ
  6. หากพบว่าอโลคาเซียที่เราปลูกเลี้ยงมีใบเหลืองหรือไหม้ โดยไม่ทราบสาเหตุ ผู้ปลูกเลี้ยงสามารถศึกษาข้อมูลได้จาก https://www.kaset32farm.com/article/plant-care/alocasia-turning-yellow/ เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขค่ะ

แชร์หน้านี้