How to fertilize Anthurium plant

หน้าวัวกระถาง ควรให้ปุ๋ยเมื่อไหร่ และให้อย่างไร

ปุ๋ยหน้าวัว ให้เมื่อไหร่!? ให้อย่างไร!?

หน้าวัว ไม้ดอกเขตร้อนซึ่งมีส่วนของฐานรองดอกที่มีสีสันสวยงาม ใบหนาและมีลักษณะเงามัน ดอกเมื่อบานแล้วมักจะอยู่ทนนานร่วมหลายเดือน สื่อถึงมิตรภาพที่มั่นคงยืนยาว จึงมักถูกเลือกใช้ให้เป็นไม้ประดับตกแต่งบริเวณบ้าน และเป็นของขวัญ-ของฝากในโอกาศพิเศษ ในปัจจุบันมีการปรับปรุงสายพันธุ์เพื่อให้สีของดอกมีความหลากหลายมากขึ้น และปรับปรุงเพื่อให้ต้นมีขนาดที่มีความกระทัดรัดเหมาะแก่การปลูกในกระถางเพื่อตกแต่งภายในบ้าน ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “หน้าวัวกระถาง” นั่นเองค่ะ

ต้นหน้าวัวเป็นพืชในป่าเขตร้อนชื้น ตามธรรมชาติแล้วเป็นพืชอิงอาศัยใต้ร่มไม้ที่เติบโตและใช้สารอาหารจากเปลือกไม้ กิ่งไม้ ใบไม้ผุในบริเวณที่อาศัยอยู่ และเนื่องจากเป็นพืชที่เติบโตได้ช้าหน้าวัวจึงมักจะไม่ได้ต้องการธาตุอาหารมากนัก อย่างไรก็ตามหน้าวัวตกแต่งบ้านที่ปลูกเลี้ยงในกระถางจะมีพื้นที่ของกระถางและปริมาณของวัสดุปลูกที่จำกัดจึงต้องมีการเติมปุ๋ยเพื่อคงแร่ธาตุในดินเพื่อให้ต้นหน้าวัวของเราคงความแข็งแรง-ทนต่อโรคและแมลง และยังคงความสวยงามของดอกและใบอีกด้วยค่ะ

จะเกิดอะไรขึ้นหากหน้าวัวขาดสารอาหาร?

สัญญานที่บ่งบอกถึงการขาดธาตุอาหารของต้นหน้าวัวได้แก่ ใบมีสีซีดซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการที่โดนแดดโดยตรง หรือแดดจัดจนเกินไป อย่างไรก็ตามหากต้นหน้าวัวที่เราเลี้ยงมีลักษณะใบซีดทั้งที่อยู่ในที่มีแสงรำไรอย่างเหมาะสม นั่นอาจเป็นสัญญานหนึ่งของการขาดธาตุอาหารค่ะ นอกจากนี้ยังมีสัญญานอื่นๆเพิ่มเติมเช่น สีของดอกซีด-ไม่สดใส ดอกเล็ก หรือไม่ยอมมีดอกใหม่เพิ่มทั้งๆที่ไม่ใช่ช่วงพักตัว เป็นต้นค่ะ

เราควรให้ปุ๋ยอย่างไร และบ่อยแค่ไหน?

การให้ปุ๋ยเพื่อบำรุงต้นควรให้ทุกๆ 4-6 สัปดาห์ในช่วงหน้าร้อนและหน้าฝนซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หน้าวัวกำลังเติบโต ร่วมกับการตัดแต่งกิ่ง-ใบ หรือการย้ายกระถางเพื่อกระตุ้นให้หน้าวัวได้ออกดอกและใบใหม่ และสำหรับในช่วงหน้าหนาวที่อากาศเย็นลง ต้นหน้าวัวจะมีการเติบโตที่ช้าลง(พักตัว)ได้บ้าง ในช่วงนี้ควรจะเว้นการให้ปุ๋ยไปก่อนค่ะ

โดยใช้ปุ๋ยที่มีสูตรเสมอของธาตุ N-P-K เช่นสูตร 16-16-16 เพื่อบำรุงต้นหน้าวัวในทุกๆด้าน อย่างไรก็ตามเนื่องจากหน้าวัวเป็นพืชที่ไม่ต้องการปุ๋ยมากนัก การให้ปุ๋ยที่เข้มข้นมากเกินไปจะทำให้ดินเค็มซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อต้นหน้าวัวได้ หากเลือกใช้ปุ๋ยน้ำเราจึงควรที่จะเจือจางลงกว่าอัตราปกติให้เหลือเพียง 1 ใน 4 เท่า หรือหากเลือกใช้ปุ๋ยเม็ดแบบละลายช้าก็ควรให้ปุ๋ยทุก 2-3 เดือน และโรยในปริมาณน้อยๆก่อนค่ะ

และหากหน้าวัวไม่ยอมมีดอกใหม่เพิ่ม หรือดอกมีสีสันที่ไม่สดใส ผู้ปลูกเลี้ยงก็สามารถสลับมาใช้ปุ๋ยที่มีอัตราส่วนของค่าโพแทสเซียม(P)สูงกว่าค่าอื่นๆควบคู่ไปด้วยเพื่อกระตุ้นการออกดอกและบำรุงดอก เช่นสูตร 8-24-24 หรือ 12-24-12

โดยวิธีการให้ปุ๋ย ควรให้ 1 วันหลังจากวันที่เราทำการรดน้ำต้นหน้าวัวตามปรกติ โดยค่อยๆรดปุ๋ยน้ำเจือจางที่เราเตรียมไว้ลงบนหน้าดินให้ทั่วจนกระทั่งน้ำทะลุผ่านรูระบายน้ำบริเวณก้นกระถางออกไป และหากมีจานรองกระถางให้เทน้ำปุ๋ยทิ้งไปอย่าให้มีน้ำปุ๋ยขังที่จานรองกระถางนะคะ

การให้ปุ๋ยหน้าวัวที่มากเกินไปจะส่งผลอย่างไร

การให้ปุ๋ยที่มากเกินไปไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อต้นหน้าวัว ปุ๋ยที่เข้มข้นมากเกินไปจะส่งผลให้ดินเค็มจะทำให้ต้นหน้าวัวมีอาการใบเหลือง ใบไหม้ ใบหลุดร่วง ก้านใบแคระแกรน อาจทำให้รากเน่า และตายได้ หากผู้ปลูกเลี้ยงให้ปุ๋ยหน้าวัวมากเกินไป สามารถแก้ไขและบรรเทาได้โดยการใช้น้ำสะอาดรดค่อยๆรดที่หน้าดินจนกระทั่งน้ำไหลผ่านก้นกระถางทิ้งไป ทำช้าๆ และทำซ้ำประมาณ 4-5 ครั้ง น้ำสะอาดจะช่วยชะล้างและนำพาแร่ธาตุส่วนเกินออกมาค่ะ

 

เห็นไหมคะว่าการดูแลต้นหน้าวัวให้คงความสวยงามไม่ใช่เรื่องยาก หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านได้ทราบและเข้าใจถึงวิธีการให้ปุ๋ยแก่ต้นหน้าวัว เพื่อเป็นแนวทางในการนำไปดูแลหน้าวัวที่บ้านให้มีความสวยงาม สดใส อยู่คู่กับเราไปนานๆค่ะ


แชร์หน้านี้